เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 จากกรณีล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในประกาศกระทรวงมหาดไทย ถอนสัญชาติไทยของนายพัด สุภาภา หลังได้รับรายงานจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งระบุว่ามีพฤติการณ์เชื่อมโยงกับกลุ่มทุนสีเทาและกลุ่มบุคคลที่ฉ้อโกงประชาชน จนนำไปสู่การถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร

ลียง พัด หรือ พัด สุภาภา มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลแห่งกัมพูชา ที่เพิ่งถูกกระทรวงมหาดไทยไทยประกาศถอนสัญชาติ หลังจากถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำภายใต้กฎหมาย Global Magnitsky Act ฐานพัวพันธุรกิจสีเทาและการบังคับใช้แรงงาน
ลียง พัด เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2501 ที่จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา ในครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีน-เขมร เติบโตท่ามกลางยุคสงครามกลางเมือง ก่อนจะเริ่มสร้างตัวในช่วงปลายทศวรรษ 2520-2530 เมื่อกัมพูชาเปิดประเทศเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจตลาดเสรี เขาเริ่มต้นจากธุรกิจการเกษตร โดยเฉพาะไร่อ้อย และขยายเข้าสู่ธุรกิจก่อสร้าง พลังงาน การท่องเที่ยว กาสิโน และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ
จากนักธุรกิจรุ่นใหม่ เขากลายเป็นเจ้าของอาณาจักร L.Y.P. Group ที่มีอิทธิพลครอบคลุมทั้งเกษตรกรรม พลังงาน สื่อ และการท่องเที่ยว ได้รับฉายาจากเอกสารลับ WikiLeaks ว่า ราชาแห่งเกาะกง (The King of Koh Kong) และติดหนึ่งในมหาเศรษฐีระดับต้นของกัมพูชา

เสี่ยพัดยังมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับวงการการเมืองกัมพูชา
- พ.ศ. 2543 ได้รับตำแหน่งเกียรติยศ ออกญา (Oknha) จากการบริจาคเงินให้รัฐมากกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- ปัจจุบัน ได้รับการเลื่อนเป็น เนี๊ยะออกญา (Neak Oknha) และดำรงตำแหน่งประธานสมาคมออกญาแห่งกัมพูชา
- พ.ศ. 2549 ได้รับเลือกเป็นวุฒิสมาชิกพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP)
- พ.ศ. 2565 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จฯ ฮุน เซน
รายงานหลายฉบับระบุว่า ลียง พัด เป็นหนึ่งใน กระเป๋าเงิน ของฮุน เซน ที่ให้การสนับสนุนพรรค CPP มาอย่างยาวนาน
L.Y.P. Group มีเครือข่ายธุรกิจข้ามพรมแดนกับไทย ทั้งในด้านพลังงาน เขตเศรษฐกิจพิเศษ และธุรกิจสื่อ โดยเขาถือสองสัญชาติ (ไทย-กัมพูชา) และมีการลงทุนเชื่อมโยงกับบริษัทไทยหลายแห่ง เช่น ฮุนได เคเคเอ็น ยาซากิ ฮานา และมิกาซ่า ขณะเดียวกัน ช่อง PNN ในเครือของเขายังซื้อลิขสิทธิ์ละครไทยไปออกอากาศอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เส้นทางธุรกิจของลียง พัด ต้องสะดุดเมื่อกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรเขาและบริษัท L.Y.P. Group เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการบังคับใช้แรงงาน โดยเฉพาะที่ O-Smach Resort ซึ่งพบการยึดหนังสือเดินทาง บังคับทำงานหลอกลวงออนไลน์ และทำร้ายร่างกายจนมีผู้เสียชีวิต หลังจากนั้น ทางการไทยได้รับรายงานจาก ปปง. และกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันความเชื่อมโยงของเขากับกลุ่มทุนสีเทา ก่อนที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะลงนามในประกาศถอนสัญชาติไทยของ พัด สุภาภา อย่างเป็นทางการ เหตุการณ์นี้ถูกมองว่าเป็นสัญญาณเตือนสำคัญต่อนักธุรกิจไทยที่มีการลงทุนเกี่ยวข้องกับเครือข่าย L.Y.P. Group ซึ่งถูกจับตาว่ามีส่วนพัวพันกับกิจกรรมผิดกฎหมายในภูมิภาค.
